Wednesday, May 29, 2019

บุหรี่กับการหยุดสูบบุหรี่ (ภัยบุหรี่ 4)

แล้วสำหรับคนที่สูบมาแล้วล่ะ จะทำอย่างไร
สำหรับคนที่สูบมาไม่นานการเลิกสูบบุหรี่นั้นได้ประโยชน์ชัดเจน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แต่สำหรับบางคนที่สูบมานาน เรียกว่าลงทุนกับปอดคู่นี้มาหลายปีมาก คำถามก็คือ เลิกตอนนี้จะทันไหม เพราะสูบมานานมากแล้ว ความเสี่ยงได้เกิดขึ้นแล้ว หยุดตอนนี้ก็กลับไปแก้ไขความเสี่ยงในอดีตต่างๆไม่ได้ สู้สูบต่อไปไม่ดีกว่าเหรอยังไงก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ก็เสี่ยงอยู่แล้วนี่นา เช่นตอนนี้สูบมา 30 ปีแล้ว ก็เสี่ยงหลายโรคแน่ๆ ทั้งมะเร็งปอด โรคหัวใจ โรคไต โรคความดันโลหิตสูง หยุดตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว ทำไงดี
 เรามาดูข้อมูลขององค์การอนามัยโลกดีกว่าว่า การหยุดสูบบุหรี่มีประโยชน์อย่างไรบ้าง
หลังจากที่คุณหยุดสูบบุหรี่ เกิดอะไรขึ้น
1.      ภายใน 20 นาที หัวใจกลับมาเต้นช้าลง และความดันโลหิตจะลดลง
2.      หลังจากหยุดสูบ 12 ชั่วโมงก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ในเลือดจะลดลงจนปกติ
3.      ภายใน 2-12 สัปดาห์ระบบไหลเวียนโลหิตจะดีขึ้น ปอดจะทำงานดีขึ้น
4.      ภายใน 1-9 เดือน อาการไอและหายใจไม่อิ่มจะลดลง
5.      ภายใน 1 ปี ความเสี่ยงในการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจะลดลงเหลือแต่ครึ่งนึงของคนที่ยังสูบอยู่
6.      ภายใน 5 ปี ความเสี่ยงเรื่องหลอดเลือดสมองแตก ตีบ ตัน จะลดลงเท่าคนไม่สูบ
7.      ภายใน 10 ปี ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปอดจะลดลงเหลือครึ่งนึงของคนที่ยังสูบอยู่ ส่วนมะเร็งอื่นๆโอกาสก็จะลดลง
8.      ภายใน 15 ปี ความเสี่ยงในการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจะเท่ากับคนไม่สูบ
https://www.freepik.com/free-photo/close-up-man-s-hand-saying-no-cigarette-given-by-person-isolated-white-backdrop_3794382.htm

ยกตัวอย่างเช่นเราหยุดสูบตอนอายุ 40 ปี หมายความว่าตอนเราอายุ 50 ปี โอกาสเป็นมะเร็งปอดลดลงเหลือครึ่งนึงของเพื่อนเราที่ยังสูบอยู่ ตอนเราอายุ 55 ปี เรามีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจเท่ากับเพื่อนเราที่ไม่เคยสูบเลย
        หรือใครที่คิดว่า ตอนนี้สูบอยู่แล้วก็มีปัญหาด้านสุขภาพแล้วด้วยจากบุหรี่ เลิกตอนนี้จะทันไหม มันก็มีการศึกษาบอกมาแล้วว่า

-ถ้าเลิกตอนอายุ 30 = ชีวิตจะยาวขึ้น 10 ปีเทียบกับคนที่สูบต่อ
-ถ้าเลิกตอนอายุ 40 = ชีวิตจะยาวขึ้น  9 ปีเทียบกับคนที่สูบต่อ
-ถ้าเลิกตอนอายุ 50 = ชีวิตจะยาวขึ้น  6 ปีเทียบกับคนที่สูบต่อ
-ถ้าเลิกตอนอายุ 60 = ชีวิตจะยาวขึ้น 3 ปีเทียบกับคนที่สูบต่อ
แถมดีกับคนรอบตัวอีกด้วย โดยเฉพาะเด็กๆ

จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเลิกสูบเมื่อไหร่ ก็มีผลดีกับร่างกายทั้งนั้น แล้วยิ่งเลิกเร็วเท่าไหร่ ก็ทำให้มีโอกาสที่จะเลิกได้นานขึ้นอีก ซึ่งจะเป็นผลดีกับตัวเราเองมากขึ้นไปอีกโดยเฉพาะถ้าเลิกตั้งแต่อายุยังน้อยเราก็ยังมีโอกาสที่จะใช้ชีวิตของเราได้นานขึ้นไปอีก

ที่มา https://www.who.int/tobacco/quitting/benefits/en/



Woman photo created by nensuria - www.freepik.com

บุหรี่กับโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (ภัยบุหรี่ 3)

การสูบบุหรี่และการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (ภัยบุหรี่ 3)

            บุหรี่ เกี่ยวอะไรกับการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ โดยเฉพาะผู้ชาย หรือถ้าเป็นภาษาชาวบ้านให้เข้าใจง่ายก็คืออาการ “นกเขาไม่ขัน” นั่นเอง มันเป็นได้อย่างไร มาดูกัน
แม้ว่าอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศนั้นจะพบได้ในผู้สูงอายุทั่วไป แต่ในคนที่ไม่สูงอายุนั้นบุหรี่ดูจะเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดโรคนี้ เนื่องจากตัวควันบุหรี่นั้นมีสารเคมีและสารอินทรีย์ต่างๆหลากหลายมาก ซึ่งสารเหล่านี้ทำให้เกิดการแข็งตัวของผนังหลอดเลือด ทั้งหลอดเลือดใหญ่และเล็ก นอกจากนี้ยังทำให้หลอดเลือดเหล่านี้เกิดการตีบหรือตัน ซึ่งทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนนี้น้อยลง พอเลือดไปเลี้ยงส่วนนี้น้อยลงก็แน่นอนว่า การทำงานก็ต้องไม่ดีตามไปด้วย นี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

            แล้วเราจะจัดการกับโรคนี้ได้อย่างไร
            จริงๆต้องบอกว่าโรคนี้เป็นได้จากหลายสาเหตุ แต่แน่นอน รู้ก่อน แก้ปัญหาก่อนย่อมดีกว่าปล่อยเลยตามเลยแล้วมาแก้ตอนที่ปัญหามันบานปลายหรือแก้ไม่ได้เสียแล้ว
            อย่างแรกที่เราทำได้ทันทีคือเลิกบุหรี่ครับ เลิกแล้วอาการเหล่านี้จะดีขึ้น พร้อมกับเดินเข้าไปหาหมอทางเดินปัสสาวะ เพื่อขอความช่วยเหลือและรักษาซะ ไม่ต้องอาย เพราะเป็นเรื่องค่อนข้างสำคัญ และอาจเป็นเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับผู้ชายบางคน หรือแม้แต่ชีวิตคู่บางคู่ทีเดียว
            เดี๋ยวนี้มีที่ปรึกษาการเลิกบุหรี่มากมายครับ ง่ายๆก็นี่เลย ศูนย์การเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ กด 1666 หรือ http://www.thailandquitline.or.th/site/index.php หรือปรึกษาในรพ.เอกชนหรือ รพ.รัฐใหญ่ๆ มีคนรอให้คำปรึกษาอยู่ครับ


Sunday, May 26, 2019

บุหรี่กับโรคหัวใจ (ภัยบุหรี่ 2)

ต่อกันเรื่องของบุหรี่นะครับ

นอกจากที่บุหรี่จะทำให้เป็นโรคมะเร็งปอดแล้ว จริงๆแล้วยังมีโรคที่น่ากลัวอีกโรคหนึ่งที่หลายๆคนอาจยังไม่รู้ว่าเป็นจากบุหรี่ได้เช่นกัน นั่นก็คือ โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด(Coronary artery disease)

คนทั่วไปมักจะรู้จักว่า โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเนี่ย สาเหตุมากจากไขมันในเส้นเลือดที่สูง ทำให้ไปเกาะตัวอุดขวางทางไหลเวียนของเลือด แต่นั่นก็เป็นแค่ส่วนๆนึง ไม่ใข่ทั้งหมด จริงๆแล้วโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดนั้นตัวกระตุ้นหรือสาเหตุนั้นมีได้หลายปัจจัยมาก ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญๆ ก็หนีไม่พ้นเรื่องของ ไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน และ"การสูบบุหรี่" อันนี้สำคัญมาก บุหรี่นั้นเป็นตัวกระตุ้นที่ดีในการเร่งให้เกิดการตีบตันของหลอดเลือดทั่วทั้งร่างกาย ไม่ใข่เฉพาะที่หัวใจเท่านั้น ซึ่งก็จะตามมาด้วย
เส้นเลือดตีบตันที่ หัวใจ(โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด)
เส้นเลือดสมอง(โรคอัมพฤกษ์,อัมพาต, สมองเสื่อม)
เส้นเลือดไต(ไตวาย, ความดันโลหิตสูง)
เส้นเลือดขา(ปวดขา, แผลที่ขาหายยาก, ขาเน่า)
           เนื่องจากจริงๆแล้วเส้นเลือดในร่างกายนั้นติดต่อถึงกันหมด ลองนึกภาพถึงท่อน้ำตามบ้านนะครับ เวลามันขึ้นสนิม มันไม่ได้ขึ้นที่เดียวนะครับ มันขึ้นทุกที่ แต่ที่ไหนมีปัญหาก่อน ก็จะแสดงอาการออกมาก่อน เส้นเลือดในร่างกายเราก็เช่นกัน

แล้วโรคนี้มันเป็นอย่างไรล่ะ
โรคนี้จริงๆมีหลายขื่อ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรือ เส้นเลือดหัวใจตีบ สองโรคนี้คือโรคเดียวกัน อาการของโรคนี้ก็คืออาการที่กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือมีเลือดไปเลี้ยงไม่พอกับความต้องการเช่น หัวใจต้องการเลือดไปเลี้ยง 100% แต่ไปเลี้ยงได้แค่ 20% อย่างนี้ก็เรียกว่าขาดเลือด
อาการของโรคก็มีตั้งแต่ เหนื่อยง่ายเวลาออกแรง เรียกว่าเหนื่อย หรือรุนแรงไปจนถึงขั้นเจ็บหน้าอก เจ็บแน่นๆ ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกถึงละครไทยที่ญาติผู้ใหญ่ของนางเอกหรือพระเอกเวลาเสียใจแล้วเอามือกุมหน้าอก คล้ายๆอย่างงั้น แต่ถ้าการขาดเลือดนั้นรุนแรงมากก็จะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตายได้ ซึ่งจะทำให้หัวใจมีการทำงานที่บกพร่องลง ในบางรายอาจมีเต้นผิดจังหวะจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

แล้วมีทางรักษาไหม
คำตอบคือมี และมีหลายแบบ ตั้งแต่การกินยา การใส่ขดลวดขยายเส้นเลือดหัวใจ(Percutaneous cardiac intervention) หรือการทำผ่าตัดทำทางเบี่ยงเส้นเลือดหัวใจหรือที่เรียกกันว่าผ่าตัดบายพาส(coronary artery bypass surgery) ซึ่งในบางรายอาจจะแค่กินยา แต่บางรายอาจจะต้องใส่ขดลวด หรือผ่าตัด แต่อย่างไรก็แล้วแต่ สนิมเป็นแล้วเอาออกไม่ได้ เส้นเลือดที่ตีบแล้วอย่างไรซะมันก็เป็นโรคไปแล้ว ยารักษาในปัจจุบันทำได้แค่เพียงชะลอไม่ไห้เป็นมากขึ้น แต่ไม่ได้ทำให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม แม้ยาบางตัวจะอ้างว่าลดการตีบของเส้นเลือดได้ แต่ก็ให้ผลไม่ได้ชัดเจนอะไรมากนัก ส่วนการใส่ขดลวดและการผ่าตัดนั้น ก็เป็นเพียงการแก้ไขเฉพาะจุดซึ่งอาจจะกลับมาเป็นซ้ำอีกได้ถ้าไม่ดูแลตัวเองให้ดี และการกลับมาเป็นซ้ำนั้น ก็ขึ้นกับสาเหตุและปัจจัยหลายๆอย่าง และแน่นอนที่สุด บุหรี่นั้นก็เป็นตัวการสำคัญทีเดียว ที่ทำให้โรคนี้กลับมาเป็นซ้ำได้อีก

เลิกบุหรี่ได้ โรคนี้ก็จะเป็นน้อยลงหรือถ้าเป็นแล้วก็จะทำให้การดำเนินโรคมันช้าลง จะทำให้เราอยู่บนโลกได้นานขึ้น อยู่กับคนที่เรารักนานขึ้น

https://www.freepik.com/free-photo/aged-man-having-heart-attack-near-young-guy-sofa_3661655.htm

บุหรี่ กับ มะเร็งปอด (ภัยบุหรี่ 1 )

เห็นว่าวันงดสูบบุหรี่โลกใกล้เข้ามาแล้วนะครับ ก็เลยอยากจะมาบอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องบุหรี่และมะเร็งปอดว่า มันสัมพันธ์กันยังไง

ว่าด้วยมะเร็งปอดนั้นเนี่ยจริงๆแล้วก็ค่อนข้างที่จะน่ากลัวอยู่ไม่ใช่น้อย สัดส่วนคนที่ตายเฉพาะจากโรคมะเร็งเนี่ย ตายจากมะเร็งปอดเยอะที่สุดคือ 25% ที่เหลืออีัก 75% ตายจากมะเร็งอื่นๆรวมกัน จะเห็นได้ว่าเยอะมาก แล้วก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นระยะต้นๆเนี่ยแค่ 16% อัตราการเสียชึวิตภายในปีแรกมากกว่า 50% ถือว่าเป็นโรคมะเร็งที่รุนแรงชนิดหนึ่ง
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับบุหรี่ล่ะ
ควันบุหรี่ถือเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง ซึ่งจริงๆควันบุหรี่นั้นมีสารประกอบหลายตัวมากเรียกรวมๆกันว่าทาร์(Tar) ซึ่งตัวทาร์นี้เองที่เป็นสารก่อนมะเร็ง ซึ่งก็อย่างที่บอกไปคือมีหลายชนิดมากๆ อย่างน้อยๆก็มีกว่าสี่สิบชนิดเลยทีเดียว อันนี้เองที่ไปกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองที่ปอด ตามมาด้วยการทำอันตรายต่อเซลล์และดีเอ็นเอจนเกิดการกลายพันธ์ุของยีน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดมะเร็ง โดยได้มีคนทำการศึกษามาแล้วพบว่า การสูบบุหรี่นั้นสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งปอดถึง 90% เลยทีเดียว 
ซึ่งอันนี้นั้นรวมถึงการเป็นผุ้สูบบุหรี่มือสองด้วย (ผุ้สูบบุหรี่มือสอง คือผู้ที่ได้รับควันบุหรี่จากผู้สูบบุหรี่ข้างเคียงโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็แล้วแต่ )

แล้วมะเร็งปอดวินิจฉัยได้อย่างไร
โดยปกติแล้วมะเร็งปอดจะมีอาการเมื่อเป็นมากแล้ว เนื่องจากระยะต้นๆนั้น ไม่มีอาการ ส่วนมากที่พบกันที่ระยะต้นมักจะพบกันโดยบังเอิญจากการตรวจร่างกายอย่างอื่นแล้วบังเอิญเจอ เช่น มาตรวจรักษาด้วยโรคอื่นแต่ไปตรวจเอกซเรย์แล้วเจอก้อนที่ปอด หรือการตรวจร่างกายประจำปีแล้วเจอเป็นต้น ส่วนการวินิจฉัยนั้นมักจะต้องเอกซเรย์ปอดและเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ร่วมกับการส่องกล้องหรือผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อปอดส่วนที่สงสัยมาตรวจยืนยันว่าใช่มะเร็งปอดจริงหรือไม่ก่อน

แล้วมะเร็งปอดน่ากลัวอย่างนี้มีทางรักษาไหม
ในปัจจุบันมะเร็งปอดระยะต้นสามารถรักษาได้ขึ้นอยู่กับระยะของโรค มีโอกาสหายได้ โดยเข้ารับการรักษาโดยการผ่าตัดในระยะแรก และติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ระยะยังมีการรักษาอย่างอื่นอีกเช่น การให้ยาเคมีบำบัด การฉายรังสีเพื่อการรักษา การให้ยาแบบจำเพาะต่อเซลล์มะเร็ง (targeted therapy) ซึ่งการรักษาเหล่านี้นั้นค่อนข้างจะใช้เวลา และการรักษาบางอย่างก็มีผลข้างเคียงเช่นกัน

ดังนั้นจึงอยากให้พวกเราหันมาดูแลสุขภาพ เลิกสูบบุหรี่กันเถอะครับ เพื่อคุณและคนที่คุณรักจะได้ไม่เป็นมะเร็งปอดกัน แด่วันงดสูบบุหรี่โลก จริงๆไม่จำเป็นต้องงดเฉพาะวันนี้เท่านั้นนะครับ ทุกวันเป็นวันงดสูบบุหรี่ได้ครับ

ขอให้ผู้ที่สูบอยู่นึกถึงตัวเองและคนรอบข้างครับ

ครั้งแรกกับการไปร้านสตาร์บัคที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

เนื่องด้วยช่วงเดือนที่ผ่านมาได้ไปเป็นผู้สังเกตการณ์โตเกียวมาราธอนปี 2019 ประจวบเหมาะกับที่ร้านสตาร์บัคส์เพิ่งเปิดสาขาที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่โตเกียวพอดี เลยได้มีโอกาสแวบไปเชยชมกันสักนิดหน่อย โดยมีเพื่อนแนะนำมาจากเวปไซด์ของต่างประเทศที่บอกพิกัดมา เราก็ตามไประหว่างที่คุณแฟนไปวิ่งมาราธอนอยู่                          
พิกัดร้านคือ 153-0042 2-19-23 Aobadai, Meguro-ku, Tokyoซึ่งก็พอใส่ลงใน google map ก็ได้พอดี โดยขึ้นจากรถไปใต้ดินสถานี Shinjuku-sanchome โดยรถไฟสาย Fikutoshin line ต่อ Tokyo-Toyoko line (สายเดิมนั่นแหละไม่ต้องลงสถานีไหน แค่เรียกกันคนละชื่อ ตอนแรกก็งงเหมือนกัน) ไปลงสถานี Naka-Meguro ใช้เวลาประมาณ 13 นาทีก็ถึงสถานีนี้ จากนั้นก็เดินออกไปทาง Central exit
ร้านสตาร์บัคฝั่งตรงข้ามสถานี
ก็จะเจอกับร้านสตาร์บัคร้านใหญ่ที่อยู่ตรงข้ามกับสถานี อย่าเพิ่งดีใจนะครับ อันนี้ไม่ใช่ร้านที่จะไปแต่ดูใหญ่เหมือนกัน ให้เดินต่อไปทางซ้าย เปิด google map เดินตามไปเลยอีกประมาณ 800 เมตร ระหว่างทางก็คอยสังเกตว่าเอ๊ะร้านอยู่ไหน เพราะถ้าสังเกตใน google map จะเห็นว่ามีแต่ร้าน Don Quijote แต่ไม่เห็นมีเขียนเลยว่า Starbucks ให้เดินเลยร้านดองกี้และร้านเช่ารถไปแล้วเข้าซอยทางขวามือ หรือไม่อย่างนั้นก็เดินย้อนกลับมาให้เจอซอยแล้วเดินเข้าซอยไป ร้านสตาร์บัคส์จะอยู่ข้างหลังร้านดองกี้

ห้างดองกี้

ร้านดองกี้ร้านนี้ใหญ่เกือบเท่า
Mega Don Quijote ที่ Shibuya เลยนะครับ ดองกี้สาขานี้เวลาขึ้นบันไดเป็นเสียงเปียโนไล่เสียงด้วยนะครับก็แปลกดี
เดินเลยร้านดองกี็ไปจะเจอร้านเช่ารถของโตโยต้า เดินเลยไปจะเจอทางเลี้ยวขวา เจอฝูงชนล้นหลามมากมายท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา ร้านสตาร์บัคจะอยู่ทางขวามือ แต่ยังเข้าไม่ได้ ต้องไปรับบัตรคิวก่อ ซึ่งในที่สุดก็ได้คิวมาซึ่งเป็นคิงที่...แม่เจ้าคิวที่ 3864 คืออะไร นี่เพิ่งสิบเอ็ดโมง ได้คิวสามพันกว่า แต่ก็ไหนๆก็ไหนๆ มาแล้วก็รอแหละนะ เค้าแนะนำให้สแกน
QR code แล้วลงทะเบียนผ่านอีเมล์จะได้รู้ว่าถึงคิวที่เท่าไหร่แล้ว แล้วมีเตือนมาพอสแกนปั๊บ ก็รู้ชะตาชีวิตเลยว่ารอนานแน่นอน อีก 231 คิว เอาไงดีละทีนี้ จะไปอยู่ไหนดีแถวนี้ ฝนก็ตก สุดท้ายก็เลยไปแวะร้านราเมง กินข้าวเที่ยงฆ่าเวลาก็สั่งราเมงชุดเที่ยงมา ร้านแถวนั้นก็ดูน่ารักดี ร้านนนี้ต้องเดินย้อนกลับมาทางดองกี้หน่อยนึง ไม่ได้ไกลมาก อาหารอร่อยใช้ได้ ก็กินอยู่พักนึง นั่งอยู่เกือบ 40 นาทีก็รู้สึกว่าคนอื่นๆเค้าก็เข้าๆออกเปลี่ยนใหม่ละ แต่เรายังนั่งแช่อยู่ก็แอบเกรงใจ ก็เลยจ่ายตังแล้วออกมา ก็แวะเข้าดองกี้อีก จนเวลาเที่ยงครึ่งก็เห็นละว่าคิวเหลือน้อยก็เลยเดินกลับไปที่รอคิว ก็ต้องรอเค้าเรียกต่อคิวอีกพักนึง แล้วถึงเรียกเข้าไป ก็เข้าไปพร้อมๆกันทีละประมาณ 50 คนอันนี้ต่อคิวก่อนเข้าแล้วก็เดินเข้าไปพร้อมกันพอเข้าไปข้างใน คนเยอะมากกกกกก แทบเดินชนกันของขายก็เยอะเช่นกัน 


อันนี้ถ่ายมาบางส่วนอันนี้เครื่องคั่วกาแฟ คั่วกันให้เห็นกันชัดๆ เสร็จแล้วก็เคลื่อนย้ายผ่านหลอดพวกนี้ไปอันนี้เบเกอรี่ทำเองของสตาร์บัคส์  มีกระจกกั้นอยู่จากนั้นก็ถึงเวลาสั่งกาแฟ คิวยาวจริงๆ เมนูกาแฟ มีให้เลือกเยอะมาก เลือกไม่ถูก ไม่รู้ต่างกันยังไง(ปกติไม่ใช่คอกาแฟ)คิวรอสั่งกาแฟ เคาเตอร์สั่งกาแฟอยู่ตรงขวามือไกลๆก็เลือก Today Starbucks reserve coffee มาอันนึง Colombia Pedregal. Shot 

ราคา 710 เยน นึกว่าจบ แล้วเค้าก็ให้เลือกวิธีชงเสียค่าชงอีก หืม!!! เพิ่งเคยเข้าร้านกาแฟแล้วต้องเสียค่าชง คืออะไร แต่ก็นะ มาถึงจุดนี้ point of no return ก็ต้องเลือกล่ะ วิธีชงแต่ละอย่างก็ใช่ว่าจะรู้จัก เคยได้ยินคุ้นๆหูอยู่แค่อันเดียว French press เลือกอันนี้ละกัน 766 เยน ไม่เอาเบเกอรี่อ่ะอย่าถามว่าอ่านว่าอะไรนะครับ อ่านไม่ออกจ่ายตัง ก็รูดกรุงไทยทราเวลการ์ดไป สบายใจได้เหมือนเป็นบัตรคิวอิเลคทรอนิคมา ถ้าถึงคิวจะดัง ให้เราเดินไปรับของได้ ก็เลยเดินเล่นไปก่อน เล็งหาที่นั่ง ปรากฏว่าไม่มีอันนี้ทางขึ้นชั้นสอง แก้วเยอะมากชั้นสองเป็นพวกชากับเบเกอรี่ ที่นั่งก็เยอะพอสมควร แต่คนเยอะกว่ามากมีขายของด้วย 
ตอนเดินขึ้นชั้นสามตรงผนังมีเหมือนป้ายบอกกาแฟพันธ์ต่างๆเต็มผนัง เยอะมาก หาไอ้ที่สั่งไปไม่เจอ ก็ไม่หาละ เยอะลายตาเกินชั้นสามมีคอกเทลเล้าจน์ ก็เดินผ่าน ไม่ได้ลองไปครั้งเดียวคนเดียว สั่งไม่ครบนะครับชั้นสี่เป็นเหมือนโชว์เครื่องจักของโรงคั่ว ป้ายกาแฟที่ชั้นสี่ สักพักใหญ่ๆเสียงบัตรคิวก็ดัง ก็เดินไปรับกาแฟที่ชั้น 1ด้านซ้ายบนของรูปคือบัตรคิว RF นะครับอ่อ French press หน้าตางี้ ได้มาพร้อมแก้วเปล่าแก้วนึง แล้วกินไงล่ะ กินแบบธรรมดาได้ไหม หรือต้องมีพิธีรีตองอะไรอีก ไม่รู้อ่ะ ก็เลยโทรไลน์ไปถามเพื่อนที่เป็นคอกาแฟเฮ้ย French press นี่กินไงฟะ เห็นเค้ากดแล้วสูบขึ้นมาแล้วก็ยื่นมาให้อ่อ เทกินได้เลย ไม่ต้องมีพิธีอะไร แต่ French press มันแรงนะ เคยกินทีแก้วนึงใจสั่นจนอ้วกเลยเฮ่ย จริงดิ วิธีชงมันเหมือนน้ำล้างเม็ดกาแฟเลยนะ แรงขนาดนั้นเลยเหรอ             ต้องยอมรับว่ากาแฟอันนี้ ไม่เปรี้ยวเลยครับ ไม่ขมด้วย            ด้วยความที่ไม่รู้อะไรผมคิดอย่างนั้นจริงๆโดยไม่รู้ว่าเดี๋ยวอีกสักพัก ก็เป็นอย่างเพื่อนว่าจริงๆ เพราะว่าผมมาคนเดียว กาแฟแก้วสีทองแดงนี้ กินคนเดียวจนหมดครับ สักพัก ได้เรื่อง ใจสั่นจริงๆ รัวเลย ใม่ไหวละ หาอะไรกินดีกว่า 
ก็ไปจบที่เบเกอรี่ครับจัดไป ลาซานย่าร้อนๆชิ้นนึง ไม่ได้สั่งเบเกอรี่ ขออะไรๆที่หนักท้องหน่อยแล้วกัน แล้วก็นั่งพักนึง กินน้ำ เข้าห้องน้ำไปฉี่ ได้เวลาแล้วก็ออกไปเชียร์มาราธอนต่อ ปล.จริงๆสถานทีจริงมีรายละเอียดเยอะกว่านี้มากนะครับ แต่ด้วยเวลาไม่อำนวยจึงถ่ายมาได้แค่นี้ครับ  

บุหรี่ไฟฟ้า นวัตกรรมสำหรับคนรุ่นใหม่(หรือ?)

บุหรี่ไฟฟ้า นวัตกรรมสำหรับคนรุ่นใหม่(หรือ?)             เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จะสังเกตว่าบ้านเราเริ่มมีการนำเอาบุหรี่ไฟฟ้...