บุหรี่ไฟฟ้า นวัตกรรมสำหรับคนรุ่นใหม่(หรือ?)
เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
จะสังเกตว่าบ้านเราเริ่มมีการนำเอาบุหรี่ไฟฟ้า(electronic cigarette)เข้ามาใช้
โดยคนส่วนใหญ่ที่สูบมักเป็นกลุ่มวัยเริ่มทำงานหรือประมาณ 20 กว่าถึง
30 ต้นๆ บุหรี่ไฟฟ้า คืออะไร แล้วทำไมถึงเข้ามีบทบาทอย่างไรกับการสูบบุหรี่
โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่
ที่มาของการสร้างบุหรี่ไฟฟ้าคือ
ในปี 2001 เภสัชชาวจีนที่ชื่อ Hon Lik ซึ่งทำงานอยู่หน่วยวิจัยของบริษัทยาของจีน
แล้วพ่อของเขาก็ตายจากมะเร็งปอด เนื่องจากสูบบุหรี่หนักมาก และเลิกไม่ได้ ทั้งๆที่ก็รู้ว่าบุหรี่ทำให้เป็นมะเร็ง
และเนื่องจากเขาก็รู้ว่า จริงๆแล้วคนที่ติดบุหรี่นั้นเพราะติดนิโคติน
แต่ตายจากทาร์ จึงคิดว่า งั้นก็ทำบุหรี่ที่มีแต่นิโคตินสิ แต่ไม่มีทาร์
เลิกบุหรี่ได้ไม่เป็นไร แต่ไม่เป็นมะเร็ง(เออ ก็คิดได้) เค้าก็เลยคิดอุปกรณ์ที่สามารถระเหยนิโคตินที่เป็นของเหลวให้กลายเป็นไอหรือควันเพื่อสูดแต่ไม่มีใบยาสูบอยู่
คนสูบก็จะได้รับแต่นิโคติน แต่ไม่มีทาร์จากยาสูบ อันนี้เป็นจุดเริ่มต้นในปี 2003
แล้วบุหรี่ไฟฟ้า
มันดีจริงหรือ ก็ต้องบอกก่อนว่าบุหรี่ไฟฟ้านั้นมีมาไม่ถึง 20 ปี และการใช้จริงๆนั้น
ยังไม่ถึง 10 ปีด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นข้อมูลอะไรต่างๆทางวิทยาศาสตร์
หรือการเก็บข้อมูลทางการวิจัยนั้น ยังไม่เพียงพอที่จะสรุปได้ว่ามันดีกว่าการสูบบุหรี่แบบเดิม
หรือไม่ดี หรือแย่กว่า ซึ่ง ณ
ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปนะครับว่าดีหรือไม่ดี มีทั้งผ่ายสนับสนุน
และฝ่ายต่อต้านการใช้บุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่ายสนับสนุนนั้นให้เหตุผลหลักๆว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเนี่ย
ไม่มีการเผาไหม้จากยาสูบ ดังนั้นก็ไม่ต้องได้รับสารก่อมะเร็งหรือสารพิษต่างๆนาๆ
และก็จะทำให้ผู้ที่อยากเลิกบุหรี่จริงๆนั้น สามารถเลิกได้ง่ายขึ้น ส่วนกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยนั้นก็บอกว่า
การสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้น ไม่มีควันก็จริง แต่มันก็จะทำให้คนสูบหน้าใหม่นั้นเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้มากขึ้นง่ายขึ้น
อีกทั้งตัวบุหรี่และน้ำยานิโคตินเองก็มีราคาแพง เกิดในกรณีที่เขาหาซื้อน้ำยาไม่ได้
กลุ่มพวกนี้ ก็จะต้องหันกลับไปสูบบุหรี่ปกติอยู่ดี เพราะพวกเค้า ติดนิโคติน และแน่นอน
ประโยชน์ของมันเองก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจน
ส่วนสถานการณ์ในแประเทศไทยเองนั้น ตอนที่เขียนอยู่นี้
บุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นสินค้าที่ห้ามนำเข้าราชอาณาจักรนะครับ คือเป็นสินค้าที่ห้ามขายห้ามนำเข้าในบ้านเมืองเราอยู่
ผิดพระราชบัญญัติศุลลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27
ส่วนที่เห็นๆกันอยู่ทั่วๆไปนั้นเดาว่าคงซื้อหรือหิ้วมากจากต่างประเทศ
ก็คงยังต้องติดตามดูข้อมูลกันต่อไปว่าบุหรี่ไฟฟ้า
ดีจริงหรือ หรือแค่คำหลอกโฆษณาชวนเชื่อ แต่ก็เชื่อว่าการไม่เข้าไปยุ่งกับการสูบตั้งแต่แรก
น่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด แล้วจะทำให้บทความนี้ ไม่มีความจำเป็นต้องอ่านอีกต่อไป
เพราะเราจะได้ไม่ต้องมาเถียงกันว่าดีหรือไม่ดี ในเมื่อถ้าไม่มีใครสูบอะไรเลย
No comments:
Post a Comment